ก็เพราะตั้งอยู่ในทิศทางลม จังหวัดชุมพรจึงมักเป็นเหยื่อของพายุเสมอ
หากยังจำกันได้ เมื่อปีพ.ศ. 2532 ไต้ฝุ่นเกย์พัดผ่านเข้าชุมพรอย่างจัง จนแทบทั้งเมืองพังราบ ชุมพรใช้เวลานานหลายปีในการฟื้นฟู แต่เนื่องจากมีที่ตั้งอยู่พอดีในที่ราบลุ่ม มีภูเขาอยู่ทางตะวันตกและตะวันตกเฉียงเหนือ และมีแม่น้ำพาดผ่านเมือง หรือแม่น้ำท่าตะเภาสายเดียวที่ไหลผ่านเมืองออกสู่ทะเล ทำให้ทุกครั้งที่เมืองนี้ประสบปัญหาพายุเข้าหรือฝนตกหนัก เมืองนี้จึงเกิดปัญหาน้ำท่วมใหญ่อยู่เสมอ เช่นในปี 2540 ที่เกิดความเสียหายอย่างมาก
ก็เพราะไปชุมพรบ่อยมาก อย่างที่บอกว่าเมืองนี้เงียบสงบดี ไม่มีนักท่องเที่ยวมากนัก เราสองคนมักขับรถวนเล่นไปโน่นไปนี่ เส้นทางริมคลองระบายน้ำแห่งนี้ที่มีวิวสวยงามดี ทะลุจากใจกลางเมืองไปยังพนังตัก ที่เป็นชายทะเล มีหมู่บ้านชาวประมง จึงเป็นเส้นทางที่เราชอบขับเล่นชมวิวอยู่เสมอ โดยหารู้ไม่ว่าเส้นทางนี้คือเส้นทางการเดินน้ำที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงดำริให้สร้างเพื่อช่วยบรรเทาอาการน้ำท่วมของเมืองนี้ ซึ่งท่านได้พระราชทานทุนส่วนพระองค์ให้ทำการก่อสร้างทันทีเพราะเห็นว่าชาวบ้านเดือดร้อนมาก และชุมพรกำลังจะมีพายุเข้าอีก ซึ่งหากไม่มีคลองแห่งนี้ ก็จะเกิดความเสียหาย ซึ่งพระราชดำริครั้งนี้ ก็จะไม่สามารถสำเร็จได้เลยหากปราศจากความร่วมมือร่วมใจของชาวชุมพร ตั้งแต่ผู้ที่มีหน้าที่บริหาร จนถึงชาวบ้านทุกๆ คนที่ร่วมด้วยกันแม้กระทั่งการบริจาคที่ดินส่วนตัว ซึ่งคลองที่มีความยาว 1,460 เมตรแห่งนี้ ขุดเสร็จสิ้นภายในเวลาเพียงเดือนครึ่ง ทุกคนทำงานอย่างเร่งรีบผ่านตัวแทนของพระบามสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และอยู่ในสายพระเนตรของพระองค์อยู่เสมอ ทั้งที่มีพายุเข้าและฝนตก การทำงานก็คงดำเนินต่อไปเพื่อให้เสร็จทันเวลาพายุใหญ่เข้า จนในที่สุดคลองแห่งนี้ก็เสร็จได้เพียง 1 วันก่อนพายุลินดาเข้าจังหวัดชุมพร ทำให้รอดจากน้ำท่วมครั้งใหญ่อีกครั้งไปได้อย่างหวุดหวิด
เรารู้เรื่องราวของเส้นทางนี้จากวิดีโอชุดนี้ ดูแล้วน้ำตาไหลตลอดเวลา…^_^ นี่คือพระราชกรณียกิจที่ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชนที่จับต้องได้ หลายคนลืมไปแล้วว่าพระเจ้าแผ่นดินเราคือพระเจ้าแผ่นดินที่ทรงงานหนักที่สุดในโลก ดิฉันภูมิใจมากที่ได้เกิดมาใต้ร่มพระบารมี เชิญชมนะคะ แล้วจะรู้ว่าทำไมคนถึงรักในหลวง ท่านไม่ได้ให้เงินชาวบ้าน แต่ท่านให้แนวคิดแนวทาง หากเราเข้าใจสิ่งที่ท่านสอนและนำมาใช้ ก็จะรู้ค่ะว่าคำสอนของท่านลึกซึ้งอย่างถึงที่สุด
© OHHAPPYBEAR
