วัฒนธรรมและความสวยงามของสถานที่ ไม่เคยล่อเราได้เหมือนภาพอาหารมากมายที่แสนจะน่ากินของจังหวัดในอีสานเหนือ ที่เพื่อนเรา (สะไภ้อีสานคนงาม) กระหน่ำลงตลอดเวลา แหนมเนืองเอย ข้าวเกรียบปากหม้อเอย หมูยอ ปอเปี๊ยะสด ข้าวเปียกเอย ไหนจะไก่ย่าง ส้มตำ ที่อยู่เต็มโต๊ะของเธอ ทำให้เรารีบวางแผนต้องไปเที่ยวไปกินบ้าง และนี่คือการเที่ยวแบบ Roadtrip ที่เราใช้เวลา 8 คืน 9 วัน เราไปอุดรธานี (แวะขอนแก่น) ต่อด้วยบึงกาฬ กลับมาหนองคาย แบ่งการขับรถเป็นช่วงๆ ได้ดังนี้
- กรุงเทพ -อุดร (แวะกินข้าวเที่ยงที่ขอนแก่น) (ระยะทาง 596 กม. / 7 ชม.) แวะกินข้าวเที่ยงที่ระเบียบไก่ย่าง (ภาพบน)
- อุดร – บึงกาฬ (ระยะทาง 188 กม. / 3 ชม.) นอนที่โรงแรม BK Place เพราะโรงแรม The One เต็ม บอกเลยว่าเป็นเพราะอยากมาภูทอก โรงแรมเลวแค่ไหน เราก็ยอม
- บึงกาฬ – หนองคาย (ระยะทาง 136 กม. / 2 ชม.) นอนเล่นหนองคาย 2 คืน ที่โรงแรม Royal Nakara ดีงามมากชอบที่สุด
- หนองคาย – โคราช (ระยะทาง 366 กม. / 4 ชม.) แต่แวะกินข้าวที่ขอนแก่นก่อน มีร้านกาแฟมาฝาก น่ารักเชียว ที่โคราชเราพักที่ Koranaree Courtyard Boutique Hotel ดีงามน่ารักมากสำหรับคืนสุดท้ายในทริป
มื้อเที่ยงที่ขอนแก่น
“ไก่ย่างระเบียบ” เป็นร้านที่เราแวะ เพราะอยู่ไม่ไกลจากทางหลวงนัก ไก่ย่างอร่อยมากที่สุดเท่าที่เคยกินมา ย่างใหม่ๆ หนังกรอบมากๆ ส่วนส้มตำ เราสั้งตำลาวไม่ใส่ปลาร้า และตำไทย ก็อร่อยมาก และมีหมี่ผัดโคราชมาทานด้วย ทุกอย่างดีงาม ส่วนปลาเผา ซึ่งเป็นปลาทับทิม ไม่แนะนำ เพราะน่าจะย่างไว้นานแล้ว เนื้อเย็นชืดเชียว
แผนที่ >> https://goo.gl/maps/trvQwvi79zM2 T: 081 662 4818
ส่วนกาแฟ แนะนำ Slove U Coffee ใกล้ๆ บึงแก่นนครค่ะ
อุดรธานี
เอาจริงๆ อุดรสำหรับเราคราวนี้ก็เป็นทางผ่าน เพราะไฮไลต์ของทริปนี้คือการไปปีนภูทอกที่จังหวัดบึงกาฬ แต่ก็ได้ข่าวว่าอาหารอีสานที่อุดรก็อร่อยมาก เราเลยอยู่นานเสียสามคืน และที่อยู่สามคืนก็เพราะว่า มีร้านอาหารแนวใหม่ร้านนึงที่ออกสื่อเยอะจนดังมาก อาหารจากภาพดูสวยเก๋ แต่ปิดวันจันทร์ เราเลยจองอยู่ต่ออีกวันเพื่อรอรับประทาน ซึ่งก็จะขอสรุปไว้ดังนี้ “ฉลาดแต่ไม่น่ารัก เก๋แต่ไม่อร่อย” ทุกอย่างหวานเลี่ยนมากและแพงทีเดียว แม้กระทั่งน้ำปลาพริกที่ขอมากินกับกับข้าวที่หวานๆ นั้น ก็ยังไม่อร่อย
โรงแรมที่เราพักชื่อ Kritlada Hotel เป็นโรงแรมเล็กๆ ในตัวเมือง น่ารักราคาดี ห้องดีสะอาดและเงียบ และให้หมอนสี่ใบอย่างกับโรงแรมห้าดาว อันนี้ชอบมาก พนักงานออกจะมึนๆ แต่ก็มีกระจิตกระใจที่จะช่วยเหลือดี อย่างนึงที่เจอครั้งแรกในการพักโรงแรมคือ การขอมัดจำกุญแจ 100 บาท (มีใบเสร็จให้) ก้อเลยทำให้เราไม่กล้าฝากกุญแจกับเค้าเลยตลอดสามคืนที่ไปอยู่ เอาไปด้วยตลอดเวลา 😀
อรุณีเมี่ยงทอด โทร. (044) 244-588 เปิดทุกวัน 8.00 – 17.00 น.
อาหารเวียดนามอร่อยมากๆ และเป็นร้านที่คนท้องถิ่นกิน สภาพอาจดูซกมกหน่อย แต่อาหารดีเชียว เรามาร้านนี้ช่วงบ่ายแล้ว น่าจะประมาณบ่ายสาม อาหารต่างๆ เริ่มหมดจากหน้าเคาน์เตอร์แล้ว แต่ยำแหนมทอดอร่อยจริงจังมาก ทุกอย่างที่นี่จะมีหนังหมูประกอบเยอะมาก “เมี่ยงสด” หรือ ปอเปี๊ยะสดเป็นหนังหมูห่อผสมกับผัก ปากหม้อทำไว้ก่อนล่วงหน้าไส้หมูสับต้นหอม เสิร์ฟกับหมูยอชิ้นโต และหมูยอ อย่างที่เห็นในภาพว่ามาจานใหญ่ อร่อยมาก ตอนกำลังกินมีคนแวะมาซื้อแหนมเนืองกลับบ้านตลอดเวลา แนะนำว่าหากอยากกินอาหารเวียดนามอร่อยๆ ให้มาที่นี่ มาเช้าหน่อยอาหารยังมีครบค่ะ
สวนสาธารณะหนองประจักษ์ศิลปาคม ก็ปรากฏว่าเราชอบสวนสาธารณะของเมืองอุดรมากมายที่เดียว เลยได้แวะไปทุกเย็น หนองประจักษ์เป็นสถานที่รวมคนรักสุขภาพของเมืองอุดร มีลานออกกำลังกาย ที่จะมีเต้นแอโรบิคตามเพลง มีวงเล่นตะกร้อ และมีทางเดินรวมทั้งลู่วิ่งจักรยานแบ่งกันเป็นสัดเป็นส่วน มีสะพานแขวนสองสะพานไว้ให้เดินข้ามบึงน่ารักมาก มีสนามเด็กเล่นธีมไดโนแลนด์ที่ดีมากๆ หนองประจักษ์มีการดูแลที่ดีมาก ห้องน้ำก็สะอาดและฟรี คนที่นำจักรยานมาสามารถขี่วงใหญ่ได้รอบสวนด้านนอก ที่เค้ามี bike lane จัดไว้ให้ สำหรับนักท่องเที่ยวอย่างเรา สามารถเข้าไป speed walk ได้เลย มีจุดถ่ายรูปมากมาย อันนี้ดี
อาหารเช้าที่ คิงส์โอชา โทร. (042) 343-481 เปิดทุกวัน ตีสี่ – เที่ยง
มาอุดร ก็ต้องรับประทานอาหารเช้าแบบอุดรแท้ๆ กัน เช่น ไข่กระทะ และขนมปังยัดไส้ (หมูยอ + กุนเชียง) ร้านอาหารเช้าแบบนี้มีเยอะมากในตัวเมืองอุดร ร้านแรกที่เราไปลองคือคิงส์โอชา ร้านใหญ่โตมีความสะอาดสะอ้านและการจัดการที่ดีมาก อาหารรวดเร็ว อร่อย และไม่แพงเลย ไข่กะทะสามารถสั่งระดับความสุกได้ และขนมปังยัดไส้ และขนมปังทาเนยอร่อยมากๆ ขนมปังกรอบนอกนุ่มในชอบมาก เราได้ลองข้าวไข่เจียว ที่ไข่เจียวจะมาเป็นก้อนกลมๆ หนาๆ และโจ๊กหมูซึ่งก็พอได้ แต่ไม่ติดใจ อยากกินอีกเหมือนไข่กระทะและขนมปังทั้งหลาย
เที่ยวอุดรคราวนี้ ทำให้เรารู้ว่า อุดรเป็นเมืองที่มีชาวจีนอยู่เยอะมากๆ และยังเป็นกลุ่มที่มีสัมพันธภาพที่เหนียวแน่นจากอดีตจนถึงปัจจุบันอีกด้วยต่างหาก ศาลเจ้าปู่-ย่าของจังหวัดอุดร เป็นหนึ่งในศาลเจ้าเก่าแก่ของชาวจีนในจังหวัด ที่รวมตัวกันสร้างขึ้นในนามมูลนิธิ ที่นอกจากจะเป็นศาลเจ้าแล้ว ยังเป็นที่รวมตัวกันของชาวอุดรเชื้อสายจีน ที่หากจะว่าไปก็อพยพมาอยู่ที่อุดรตั้งแต่สมัยรัชสมัยรัชกาลที่ 3 ปัจจุบัน ศาลเจ้าปู่-ย่า เป็นทั้งศาลที่คนมากราบไหว้ขอพรเทพยดาฟ้าดิน และยังมีส่วนที่เป็นศูนย์วัฒนธรรมไทย-จีน ที่มีจัดนิทรรศการถาวรเกี่ยวกับชุมชนชาวจีนในอุดรที่ทำได้สนุกสนานดีงามมาก ใครอยากรู้เรื่องชาวจีนในอุดร พิธีกรรมต่างๆ เรื่องราวปรัชญาของชาวจีนที่เป็นบรรทัดฐานของความดีของชาวจีน ก็ยังสามารถมาดูได้โดยไม่เสียเงิน (มีกล่องบริจาค)
ด้านหน้าของทางเข้าศาลเจ้าปู่ย่า มีร้านชาเล็กๆ สวยงาม ชื่อร้านชาผิงอัน ขายติ่มซำ ซาลาเปา ขนมต่างๆ และชาจีน มาร้านนี้ทำให้นึกถึง Lan Su Chinese Garden ที่เมือง Portland, Oregon เพราะในสวน Lan Su นั้นมีร้าน Tao of Tea ให้บรรยากาศคล้ายๆ กัน เรากินชาจีนอู่หลงที่ร้านนี้ ก็ปรากฏว่าราคาแพงเลยและชากลับไม่มีความหอมอร่อยเท่าที่เคยกิน โดยเฉพาะหากเป็นชาราคาแพงๆ เช่นนี้ ส่วนซาลาเปาก้อนใหญ่ดีและรสชาติก็พอได้ ที่เด่นคือร้านบรรยากาศน่ารักมาก ร้านสวยดี
ด้านบนคือภายในของศูนย์วัฒนธรรมไทย-จีน อุดรธานี ในมูลนิธิศาลเจ้าปู่-ย่า มีการจัดแสดงประวัติชุมชนชาวจีนในจังหวัดอุดร ที่เกิดการตั้งรกรากขึ้นตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3 และปรัชญาในการดำเนินชีวิตของชาวจีน ซึ่งผู้ทรงอิทธิพลทางความคิดของชาวจีนรุ่นใหม่ก็คือขงจื๊อนั่นเอง
ข้าวเปียก (ข้าวต้มเส้นเวียดนาม) และ แกงเส้น (วุ้นเส้นน้ำ) ของร้านข้าวเปียก จะเป็นอาหารเช้าหรือกลางวันก็ได้ ร้านนี้เน้นกระดูกหมู เลือดหมู หมูยอ ซึ่งมาหลายมื้อแล้วก็สามารถเปลี่ยนเป็นไก่ฉีกบ้างเค้าก็มี รสชาติอร่อยดี ไม่หวือหวา แต่ดี คอมฟอร์ตติ้ง มีอาหารเช้าอุดร ไข่กระทะ ขนมปัง ข้าวจี่ปาเต อาหารเวียดนามขายด้วย
ร้านข้าวเปียก (คลิ๊กดูแผนที่) เปิดทุกวัน เช้าๆ ตีห้า ถึงประมาณ 17.00 น. โทร. (042) 244-138
กาแฟดีงามที่ร้าน Dose Espresso ที่อยู่ในเวิ้งตรงข้ามร้านข้าวเปียกเลย ร้านกาแฟเล็กๆ ตกแต่งน่ารักมาก และมีกาแฟกอร์เมต์รวมทั้งเมล็ดกาแฟมากมายให้เลือก เน้นเมล็ดที่คั่วใหม่ คั่วเอง และเน้นการทำลาเต้อาร์ต ร้านนี้ขายอาหารเช้าด้วย แต่เป็นแบบ scrambled eggs + toasts, eggs Benedict สปาเก็ตตี้ เรากินกาแฟเย็น น้ำส้มโซดา เพราะอากาศร้อนมากๆ และกลับไปกิน affogato ที่กาแฟดี บวกไอศกรีมวนิลลาเนื้อหนายังไม่พอ ยังมีช็อกโกแลตบาร์กรอบๆ ใส่มาให้ด้วย ชอบมากอร่อยดีค่ะ และพนักงานน่ารักมากที่สุด จอดรถฟรีได้ในเวิ้ง
อาหารเช้าอุดรสไตล์ ที่ร้านราชาไข่กระทะ ร้านเล็กๆ ตรงข้ามทุ่งสีเมือง ไม่ไกลจากตลาดสดเทศบาลเมืองอุดรเท่าไหร่ เช่นเดียวกับร้านอาหารเช้าสไตล์อุดรทั่วไปร้านอื่น ร้านนี้ขายไข่กระทะ ขนมปังยัดไส้ ข้าวไข่เจียว และสตู แต่เราไปกินสายๆ สตูร้านนี้คือหมดแล้ว และท่าทางจะเป็นไอเท็มเด็ดของเค้า เพราะมีแต่คนถามหา
จะบอกว่าเรากินอาหารเช้าที่อุดรทั้งสองร้าน คิดว่ารสชาติเหมือนกันเปี๊ยบๆ แบบจะกินร้านไหนก็ได้เหมือนกัน ขนมปังยัดไส้เค้าอร่อยมากๆ ชอบมากทั้งสองร้าน สั่งแบบทาเนยเฉยๆ มาด้วย ก็อร่อยมาก
ราชาไข่กระทะ เปิดทุกวัน 6.00 – 12.00 น. โทร. 087-774-4526
แหล่งโบราณคดีบ้านเชียง ซึ่งเป็นหนึ่งในสามสถานที่ในประเทศไทย ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรมโดยยูเนสโก้ โดยบ้านเชียงเป็นที่ตั้งถิ่นฐานยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แสดงให้เห็นถึงก้าวสำคัญของวิวัฒนาการทางวัฒนธรรมสังคมและเทคโนโลยีของมนุษย์ อาทิ การเกษตร การผลิต และการใช้โลหะ บ้านเชียงอยู่ห่างจากอุดร ไปทางตะวันออกประมาณ 52 กิโลเมตร ถนนดีงามขับได้ง่ายๆ ไปประมาณครึ่งชั่วโมง ส่วนที่เปิดให้ชมมีสองส่วน คือ 1. ส่วนที่เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เล่าเรื่องราวทั้งหมดของพื้นที่บ้านเชียงตั้งแต่การขุดค้นพบวัตถุโบราณทุกครั้งและการเสด็จพระราชดำเนินของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙ และ 2. ส่วนที่เป็นหลุมขุดของจริงที่ได้รับการเก็บรักษาไว้ และตรงนี้ที่เป็นส่วนที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
แหล่งโบราณคดีบ้านเชียงเกิดขึ้นจากการค้นพบวัตถุโบราณเครื่องปั้นดินเผาเก่าแก่โดยบังเอิญในปีพ.ศ. ๒๕๐๙ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการสำรวจพื้นที่และขุดค้นพื้นที่บ้านเชียงอย่างเป็นระบบ โดยเป็นการขุดค้นที่ประเทศไทย โดยกรมศิลปากร ได้ร่วมมือกับพิพิธภัณฑ์มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย โดยเป็นโครงการสำรวจระดับนานาชาติ ที่รวมพลังและความรู้จากผู้เชี่ยวชาญหลายสาขาวิชา เช่นประวิติศาสตร์ มานุษยวิทยากายภาพ วิชาสัตวศาสตร์ และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยมีการขุดครั้งแรกเมื่อปีพ.ศ. ๒๕๑๐ โดยขุดพื้นที่รวมประมาณ ๖๐๐ ตารางเมตร บริเวณเนินหมู่บ้านด้านตะวันออก โดยหลักฐานที่พบส่วนใหญ่ ได้แก่ หลุมศพกว่า ๔๐๐ หลุม ที่มีโครงกระดูกมนุษย์ฝังรวมกับสิ่งของอุทิศให้แก่ศพ ยังพบร่องรอยของเสาหลุมบ้าน และอื่นๆ ที่สามารถสืบโยงพอได้เค้าโครงของสถานที่ประวัติศาสตร์แห่งนี้
ต่อมามีการร่วมมือกับนักโบราณคดีต่างประเทศ ทำการขุดประมาณ ๑ ปี (ระหว่างพ.ศ. ๒๕๑๗ – ๒๕๑๘) สามารถขุดวัสดุได้นับ ๒๐ ตัน ซึ่งรวมถึงเศษเครื่องปั้นเดินเผาประมาณ ๕,๐๐๐ ใบ โครงกระดูกมนุษย์ ๑๒๖ โครง ซึ่งชิ้นส่วนต่างๆ ที่ขุดค้นได้ ถูกส่งไปทำการวิจัยที่มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย และมหาวิทยาลัยฮาวาย ซึ่งจากการสำรวจค้นพบว่าบ้านเชียงเป็นแหล่งอารยธรรมที่มีอายุเก่าแก่กว่า ๔,๐๐๐ ปี โดยเป็นวัฒนธรรมที่กระจายตัวทั่วที่ราบสูงโคราชตอนเหนือ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙ ได้เสด็จพระราชดำเนินแหล่งโบราณคดีบ้านเชียง เมื่อวันที่ ๒๐ มีนาคม ๒๕๑๕ ได้ทอดพระเนตรที่หลุมขุดค้นวัดโพธิ์ศรีใน โดยมีพระราชกระแสรับสั่งถามเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับสิ่งที่ขุดพบอย่างสนพระราชหฤทัยเป็นอย่างยิ่ง จากนั้นมีพระราชปฏิสันถารกับราษฎรมีมาเฝ้าทูลละอองทุลีพระบาทอย่างใกล้ชิด
ห่างจากพิพิธภัณฑ์มาประมาณ ๕๐๐ เมตร คือวัดโพธิ์ศรีใน ที่ร่มรื่นครึ้มไปด้วยต้นโพธิ์ต้นใหญ่อายุกว่า ๖๐ ปี โดยพื้นที่ตรงนี้ก็เป็นพื้นที่ที่ปรากฏในภาพเมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙ ได้เสด็จพระราชดำเนินแหล่งโบราณคดีบ้านเชียง โดยหลุมขุดค้นภายในวัดเป็นส่วนที่ได้รับการปรับปรุงโดยเก็ยสภาพการเป็นหลุมและสิ่งที่ค้นพบได้เหมือนเดิม เพียงแต่ทำการก่อกั้นพื้นที่ และสร้างหลังคาปกปิดพื้นที่สำคัญที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเพื่อถนอมรักษาให้เป็นมรดกลูกหลานต่อไป
ส้มตำถาด ที่ครัวคุณนิด
ขอปิดท้ายกันด้วยส้มตำที่อร่อยมากในอุดรอีกหนึ่งร้าน ร้านครัวคุณนิดเป็นร้านที่พี่สาวชาว”ออริกอน-อุดร” เป็นคนแนะนำ เราติดใจส้มตำลาวไม่ใส่ปลาร้า ผู้ชายที่ไปกับเรากินเหมือนเดิมคือส้มตำไทย ทั้งคู่มาเป็นถาด มีแคบหมูติดมันและกุ้งแห้งแบบน้ำจืดขยุมมาให้กองโต รสชาติจัดมาก ออกไปทางเค็มและเผ็ดมาก ไปครั้งที่สองให้เค้าลดเผ็ดอร่อยเลย กินแก้เผ็ดเราสั่งปลาเนื้ออ่อนทอดกระเทียมและกินไก่ย่าง จะบอกว่าอาหารอร่อยดี แต่ราคาแพงอยู่นะ และเป็นร้านที่ชาวอุดรไปนั่งชิลกับเหล้ากับเบียร์คุยเม้ากันกระจายมื้อละหลายๆ ชั่วโมง
ร้านอยู่ไม่ไกลจากหนองประจักษ์ (แผนที่) เปิดทุกวัน 11.00 – 22.00 น. โทร. (042) 222-126.
อ่านเรื่องเที่ยวภูทอกได้ที่นี่ค่ะ
