I know it’s hardly surprising to find centuries-old things in Ayutthaya. Yet, even after so many visits, I still haven’t seen it all. This time, it’s not a temple or a ruin, but an old palace that’s been transformed into a museum. And it even has an observatory you can climb for the views!
สำหรับอยุธยา กรุงเก่า เมืองประวัติศาสตร์ การได้พบเห็นของเก่าอายุหลายร้อยปี ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ครั้งนี้เราได้ไปเที่ยวพระราชวังโบราณ ที่เคยเป็น “วังหน้า” สมัยสมเด็จพระนเรศวรฯ ที่มีอายุมากกว่า 440 ปี ถูกเผาทำลายไปก็เมื่อกรุงแตก จนมีการสร้างขึ้นใหม่ ให้เป็นพระราชวังเหมือนเก่าก่อน ในสมัยล้นเกล้ารัชกาลที่ ๔ เพื่อให้เป็นสถานที่ประทับในคราวเสด็จประพาสกรุงเก่า โดยได้รับพระราชทานนามว่า “วังจันทรเกษม”
ปัจจุบัน วังจันทรเกษม ได้ผ่านการบูรณะมาหลายครั้งหลายหน และได้ถูกขึ้นทะเบียนให้เป็น “พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติจันทรเกษม” มีการเก็บรักษา “พลับพลาจัตุรมุข” “พระที่นั่งพิมานรัตยา” “หอพิศัยศัลยลักษณ์” และสภาคารตึกมหาดไทย ตั้งแต่ครั้งนั้นไว้อย่างครบถ้วน มีการจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ส่วนพระองค์ของรัชกาลที่ ๔ พระพุทธรูปสมัยต่าง ๆ ของอยุธยา ที่ค้นพบภายในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ส่วนหอพิศัยศัลยลักษณ์ เปิดให้ชมตามโอกาส (ตอนเราไปได้ชมพอดี) เป็นหอส่องกล้อง สูง 4 ชั้น เดิมในสมัยสมเด็จพระนารายณ์ คาดว่าใช้สำหรับสังเกตการณ์ข้าศึก มาในสมัยรัชกาลที่ ๔ โปรดเกล้าให้สร้างขึ้นใหม่เป็นหอดูดาว วิวด้านบนสวยงามตามคาด เราไปกันวันธรรมดา คนน้อย (ไม่มี) ยืนชมวิวรับลมโชยเย็น ๆ มีความสุขมาก
This ancient palace once served as the “Front Palace” during the reign of King Naresuan. Over 440 years old, it was destroyed when the city fell, but later rebuilt in the reign of King Rama IV as a royal residence for visits to the old capital. This palace was renamed “Wang Chantrarakasem.”
Today, Wang Chan Kasem has been restored several times and is now registered as the “Chan Kasem National Museum.” It preserves many historical structures, such as the Four-Gabled Pavilion, Phiman Rattaya Hall, Pisai Sanyalak Hall, and the Ministry of Interior Building. The museum showcases personal items of King Rama IV and various Buddha images from different Ayutthaya periods, discovered in the province. Pisai Sanyalak Hall, which we were lucky to visit, is a four-storey observation tower. Originally built in King Narai’s reign for military surveillance, it was later rebuilt as an observatory by King Rama IV. The view from the top was as stunning as expected. We visited on a weekday, and there were hardly any people, so we enjoyed a peaceful moment, soaking in the breeze and the view.
ใครที่ไปอยุธยาจนคิดว่าดูครบแล้ว แต่ยังไม่เคยไปที่นี่ ก็คงต้องหาโอกาสไปดูอีกซักรอบนะคะ
If you’ve been to Ayutthaya and think you’ve seen it all but haven’t been here, it’s worth another visit. Ayutthaya is an easy trip, and seeing ancient artefacts that tell stories of the past always brings a sense of joy, similar to the pleasure of savouring delicious food.
อยุธยาไปง่าย ยิ่งเห็นของเก่าของโบราณเล่าเรื่องราวเก่า ๆ แล้วยิ่งชุ่มชื่นใจ เป็นสิ่งที่ชอบพอ ๆ กันกับเวลาได้รับประทานของอร่อย ๆ ครั้งนี้ได้ไปลอง อาหารไทยร้าน ครัวแตน ร้านเก่าแก่คู่กรุงเก่า ที่มีรายการอาหารแทบจะไม่แตกต่างจากร้านบ้านตะโกรายเลย มี “ไตกุ้ง” หรือ “แสร้งว่ากุ้ง” เครื่องจิ้มที่เต็มไปด้วยสมุนไพร รับประทานคู่กับผักสด และที่แปลกน่าสนใจก็คือ ผัดเผ็ดกระดูกหมูอ่อน ที่เสิร์ฟเคียงกับใบยี่หร่าสดและกระเทียมดอง
This time, we tried Krua Tan, a long-established Thai restaurant in the old capital. The menu is nearly identical to that of Ban Takorai. Highlights include Gung Saeng Wa, a herbal shrimp relish served with fresh vegetables, and a particularly intriguing dish, spicy stir-fried soft pork bones, served with fresh holy basil and pickled garlic.
Above: อาหารที่คุ้นเคยเมื่อได้ไปเที่ยวอยุธยา ไตกุ้ง หรือแสร้งว่ากุ้ง (ล่างสุด) รับประทานกับผักสด ผัดเผ็ดกระดูกหมูอ่อน (หรือปลาสับก็ได้หากวันไหนเค้ามี) รับประทานกับใบยี่หร่าสดและกระเทียมดอง | A typical meal in Ayutthaya: Tai Goong, also known as Srang Wa Goog, a herb-packed dip made from shrimp, lemongrass, shallots, and various alliums (bottom), served with fresh vegetables; and Pad Phet Kradook Moo On, a spicy stir-fry of crunchy pork ribs (or minced freshwater fish, if available), accompanied by Bai Yee Ra (clove basil) and pickled garlic.
Above: ปลาเนื้ออ่อนทอดกระเทียม | Pla Neur On (a type of sheatfish) deep-fried with plenty of garlic.
ส่วนลอดช่องนั้น เจ้านี้ดังมากจนแทบไม่ต้องแนะนำ ไปสายเครื่องบางอย่างอาจหมดก่อน ก็อยากแนะนำว่าให้กะเวลาเที่ยวให้พอดี จะได้กินครบ ดูครบ ในทริปเดียวค่ะ
As for the lod chong (Thai dessert), this place is so famous that it hardly needs any introduction. If you arrive late, some ingredients might run out, so plan your trip well to ensure you can see and taste everything in one go!
Above: โรตีสายไหมจากร้านลูกแม่ป้อม อร่อยพอกันค่ะ| Roti Saimai, which is Thai-style candy floss served rolled up in a thin crepe. This one from Roti Mae Pom (Ran Look).
พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติจันทรเกษม (ปิดจันทร์ อังคาร และวันนักขัตฤกษ์) 9.00 – 16.00 T: 035-251-586
Chantrarakasem National Museum (closed Mondays, Tuesdays, and national holidays) 9.00 – 16.00 T: 035-251-586
ร้านอาหาร ครัวแตน เปิดทุกวัน 9.00 – 15.30, T: 035881677
Krua Tan (for the Thai meal above), daily: 9.00 – 15.30, T: 035881677
หวานกรุง (ลอดช่อง) เปิดทุกวัน 11.00 – 17.30, T: 0979351498
Waan Krung Lod Chong, daily: 11.00 – 17.30, T: 0979351498
โรตีสายไหม แม่ป้อม (ร้านลูก) อร่อยเหมือนกันค่า และซื้อง่ายกว่า ไม่ต้องจอง ไปวันธรรมดาช่วงเที่ยง ๆ มีขายเลย โทร. 0897896931
Roti Sai Mai Mae Pom (Ran Look), same deliciousness but much easier to find, no need to pre-book, just go there at around noon
🍀🍀🍀